ข้อมูลเสียหาย รู้ไว้ก่อนเกิดปัญหา
ข้อมูลเสียหาย รู้ไว้ก่อนเกิดปัญหา
ข้อมูลเสียหาย รู้ไว้ก่อนเกิดปัญหา ซึ่งท่ามกลางสังคมการทำงานในปัจจุบัน หนึ่งในปัญหาที่ทุกองค์กรต้องเจอ คือปัญหาข้อมูลเสียหาย ซึ่งต้นเหตุหลักของปัญหานี้อาจเกิดได้จากการโดนไวรัสมัลแวร์โจมตีคอมพิวเตอร์ ดังนั้นวันนี้ เกี่ยวกับ ระบบIT จึงขอเสนอวิธีป้องกันข้อมูลเสียหายที่จะช่วยให้ธุรกิจหมดกังวล
วิธีป้องกัน ข้อมูลเสียหาย !!
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส
การติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสนั้น ถือเป็นวิธีการที่ผู้คนมักมีติดคอมพิวเตอร์ไว้เสมอซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันข้อมูลจากการโจมตีของไวรัสได้ โดยมีให้เลือกใช้ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน นอกจากนี้ยังต้องคอยอัพเดตโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอด้วย
- ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์
ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เปิดช่องให้ไวรัสสามารถเข้ามาโจมตีข้อมูลธุรกิจได้ มาจากการไปดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เถื่อนมาใช้ จากเว็บที่อันตราย ซึ่งมีความเสี่ยงที่ไวรัส จะติดมาลงคอมพิวเตอร์ ตอนที่ดาวน์โหลด ดังนั้นการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้จึงปลอดภัยมากกว่า ถึงจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์มาใช้ แต่โดยรวมคุ้มกว่าการโดนไวรัสโจมตีข้อมูลแน่นอน
- การสำรองไฟล์ข้อมูล
ในกรณีที่ในเครื่องมีไฟล์หรือข้อมูลสำคัญอยู่ ก็ควรมีการสำรองข้อมูล หรือ backup ไว้ในอุปกรณ์ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ดี เช่น Hard Disk , Flash Drive หรือ Cloud เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้ จะช่วยให้ ไม่ต้องเสียไฟล์ ที่สำคัญจากการถูกไวรัสโจมตีอีกด้วย
- คิดก่อนคลิ๊กทุกครั้ง
การคลิ๊กในแต่ละครั้งควรคิดให้ดีก่อนคลิ๊ก เพราะหากคุณพลาดไปคลิ๊กลิงก์จากอีเมล หรือ เข้าเว็บไซต์แปลกปลอมอาจทำให้ไวรัสที่ติดมากับลิงก์ และเว็บ สามารถเข้าไปทำลายคอมพิวเตอร์ของคุณได้
- อย่าใช้ Wifi สาธารณะ
การ wifi สาธารณะนั้นมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกไวรัสโจมตี เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่ปล่อย wifi สาธารณะนั้น ได้แนบสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำอันตรายต่อข้อมูลของเราหรือไม่ ดังนั้นการออกไปนอกสถานที่ควรเลือกซื้อแพ็กเกจ wifi ไว้ดีกว่า
วิธีป้องกันไม่ให้ข้อมูลเสียหาย หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล
ในฐานะเจ้าของข้อมูล
- ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก มีความหลากหลาย ไม่ซ้ำกับแอคเคาน์อื่น ๆ และเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ
- ตรวจสอบการอัปเดตบนระบบปฏิบัติการและตั้งค่าเบราว์เซอร์ให้ทันสมัย
- หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูลส่วนบุคคล
- จดบันทึกประวัติการใช้งานทางการเงินเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้โดนแฮกบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต
- ตรวจสอบประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตเสมอ เพื่อรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดตามทางออนไลน์
- เลือกใช้ระบบรักษาความปลอดภัยในทุกอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อออนไลน์
ในฐานะผู้ให้บริการ
- ต้องมีการควบคุมและดูแลการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความแน่นหนา และป้องกันอย่างเต็มรูปแบบ
- จัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความสูญหาย ต่อการเข้าถึง และเกิดการเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลจากบุคคลภายนอก
- มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
- หากเกิดเหตุการณ์ข้อมูลถูกแฮก ให้รีบแจ้งเตือนผู้ใช้งานโดยเร็วที่สุด โดยจะต้องอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่สร้างความตื่นตระหนก
เครดิตเว็บไซต์ : ufarich777
อ่านวิธีทำอาหารอื่นๆ ติดตามได้ที่ : hackersonaplane